สมาคมสปาไทยจับมือสปาทั่วโลก จัดงาน “Thailand Spa and well-being Summit 2018” พร้อมมอบรางวัล“Thailand Spa & Well-being Awards 2018” ผู้ชนะสปาระดับโลก ตอกย้ำไทยศูนย์กลางสปาโลก
กรุงเทพฯ : เมืองไทยเปรียบเสมือนสวรรค์สำหรับคนรักสปา ประเทศไทยมีองค์กรที่สำคัญอย่างสมาคมสปาไทยมีความมุ่งมั่นส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมสปาไทยและทั่วโลกอย่างจริงจัง โดยมีการสร้างและกำหนดมาตรฐานของอุตสาหกรรมสปาในระดับสากล เร็วๆนี้วันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2561 สมาคมสปาไทยได้จัดงาน “Thailand Spa and well-being Summit 2018” ณ โรงแรมเพนินซูล่า กรุงเทพมหานครฯ ร่วมกับสมาคมสปาทั่วโลกและคนรักสุขภาพ เพื่อเป็นเวทีสากลเรียนรู้และพัฒนาอุตสาหกรรมสปาโลกร่วมกันอย่างยั่งยืน
ภายในงาน “Thailand Spa and well-being Summit 2018”ครั้งนี้ ประกอบด้วยเนื้อหาสาระสำคัญนวัตกรรมอุตสาหกรรมสปาทั่วโลก ได้แก่ “มิติใหม่แห่งสมุนไพรแพทย์แผนไทย” ถ่ายทอดความรู้โดย คุณปรีดา ตั้งตรงจิต ผู้อำนวยการโรงเรียนนวดแผนโบราณวัดโพธิ์ ,ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์,ดร.ณิชา สมันตรัฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางเลือกธรรมชาติบำบัดชีวาศรมและดร.บังอร เกียรติธนากร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมเครื่องหอมไทย – จีนจำกัด นอกจากนี้ยังมีเนื้อหา “นวัตกรรมด้านสุขภาพ” โดย Samantha Foster, Director – Destination Spa Management, “ความต้องการของลูกค้าสปาในประเทศจีน” โดย Fifi Kao, Director & Chief Editor – SpaChina Magazine , กิจกรรมเวิร์คช็อปต่างๆมากมาย
ที่สำคัญภายในงานช่วงเย็นทุกท่านจะได้ล่องเรือครูซในแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของคนไทยแหล่งรวมอารยธรรมความงดงาม ภายใต้คอนเซ็ป “The River of Happiness” กับงานประกาศผลรางวัล “Thailand Spa & Well-being Awards 2018”แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รางวัลคะแนนเสียงโหวตจากประชาชนและรางวัลคณะกรรมการสปา2018ร่วมตัดสิน พร้อมได้รับเกียรติจากJoachim Lieber Hon. เลขาธิการสมาคมสปาแห่งยุโรปและกลุ่มผู้นำสปาในทวีปยุโรปเข้าร่วมงานในครั้งนี้
ธุรกิจสปาในยุค2018หันมาผสมผสานศาสตร์แห่งการบำบัดเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจมารวมเข้าไว้ด้วยกันโดยมีการใช้นวัตกรรมต่างๆมาเป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมสปา ประเทศไทยในฐานะผู้นำศูนย์กลางธุรกิจสปาการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ สมาคมสปาไทยตั้งใจให้ธุรกิจสปาและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสปาทั่วโลกสามารถพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิตล้ำสมัยและมีมาตรฐานสากลเดียวกัน เร่งการสร้างภาพลักษณ์และตราสินค้า เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้บริโภคทั่วโลก